Thursday, April 26, 2012

Kyoto City Bus รถเมล์บ้านเขา ใยแตกต่างจากบ้านเรา

ก่อนเดินทางไปญี่ปุ่น เคยได้ยินแต่คนพูดถึงรถไฟชินคังเซ็น ที่เร็วปู๊ดป๊าด ระดับเจ้าพ่อเจ้าแม่รถไฟ ไม่ค่อยมีใครพูดถึงรถเมล์ หรือ City Bus รถประจำทางในญี่ปุ่น จึงอยากนำเสนอถึงความประทับใจมากมายที่ได้รับ ใครมาเที่ยวเกียวโต คงไม่พลาดที่จะซื้อตั๋ว One day pass City Bus 500 yen เที่ยวรอบเกียวโตตลอด 1 วัน ขึ้น-ลง กันแบบไม่ต้องกลัวหลงทาง เพราะมี Kyoto map ไว้รองรับนักท่องเที่ยวทั้งชาวญี่ปุ่นและต่างด้าว อ๊ะ!ต่างชาติ ป้ายรถประจำทาง นอกจากจะมีข้อมูลของสาย City Bus ที่จะเข้ามาจอดป้ายแล้ว ยังมีระบบบอกสถานะของ City Bus ที่กำลังจะเข้ามาจอดป้ายอีกด้วย และไม่เคยผิดพลาด ชอบมากๆ อยากให้บ้านเรามีแบบนี้บ้าง



การขึ้น City Bus ก็ไม่ต้องวิ่งหอบแฮ่ก ค่อยๆ เรียงคิวเดินขึ้นอย่างสุภาพเรียบร้อย หากผู้โดยสารยังขึ้นรถไม่เรียบร้อย คนขับจะยังไม่เคลื่อนรถออก ประตูรถปิดอัตโนมัติ เต็มแล้ว ให้รอขึ้นคันถัดไป ไม่นาน รออีกประมาณ 10-15 นาที ขึ้นไปบน  City Bus แล้วจะนั่งหรือยืนก็ตามสะดวก ที่นั่งไม่มากแบบรถเมล์บ้านเรา แต่ปุ่มกดออดมีเยอะมาก 360 องศา หากไม่ระวังตัว มีสิทธิ์พลาดโดนออดได้ แต่ก็ไม่ต้องกังวล เท่าที่นั่งมา จอดแทบทุกป้าย

คนขับรถ City Bus ที่เราได้มีโอกาสใช้บริการในเกียวโต ขับรถและพูดจาด้วยความสุภาพ (มาก) บางคนพอใกล้จะจอดรถก็บอก รถใกล้จะออกตัวก็บอก แม้จะมีระบบอัตโนมัติผ่านมอนิเตอร์แล้ว แต่คนขับก็ยังพูดผ่านไมโครโฟนแจ้งข้อมูลผู้โดยสารตลอดทาง ประทับใจจริงๆ

แต่บางเรื่องอาจไม่ทันใจบางคน ที่ชอบโบกรถเมล์นอกป้าย เพราะ City Bus ญี่ปุ่น ไม่จอดนอกป้าย ป้ายรถประจำทางอยู่ตรงไหน ไกลเท่าใด เราก็ต้องเดิน เดิน เดิน ไปรอ City Bus ให้ตรงป้ายจ้า นอกจากป้ายรถประจำทางจะอยู่ไกลแล้ว สี่แยกไฟแดงในตัวเมืองอย่างเกียวโต ขอบอกกว่ากว้างมาก ข้ามถนนแต่ละที เมื่อยน่องกันเลย แต่ความปลอดภัยหายห่วง หากเราข้ามไปได้เพียงครึ่งทาง แล้วไฟกระพริบถี่ขึ้นๆ ก็ไม่ต้องรีบวิ่ง เพราะรถที่ติดไฟแดง จะไม่รีบออกตัว แม้จะไฟเขียวแล้วก็ตาม เขาจะรอจนคนข้ามถนนเรียบร้อย แล้วจึงจะเคลื่อนทัพ (นานๆ จะเจอรถคันที่รีบ แต่ก็รีบอย่างสุภาพ)

ข้อมูลการเดินทางในเกียวโต

หากยังไม่คุ้นเส้นทางในญี่ปุ่น ก็ไม่เป็นปัญหา แผนที่ City Bus จะบอกสถานที่ที่เราต้องการไป ว่าให้ลงที่ป้ายรถประจำทางชื่ออะไร เราก็ดูที่จอมอนิเตอร์ ภายใน City Bus จะแจ้งชื่อป้ายรถประจำทางเป็นภาษาญี่ปุ่นก่อน แล้วเปลี่ยนเป็นภาษาอังกฤษ สถานที่ท่องเที่ยวส่วนใหญ่ มีทั้งคนญี่ปุ่นและต่างชาติลงเป็นเพื่อนอยู่แล้ว ไม่ต้องกังวล รถจอดแล้วค่อยๆ ทยอยลง ไม่ต้องรีบมายืนรอหน้าประตู หากมีบัตร One day pass City Bus เพียงโชว์บัตรให้คนขับดู ก็เดินลงไปได้เลย ยกเว้นครั้งแรกของการใช้บัตร ต้องสอดเข้าไปในเครื่อง เพื่อบันทึกวันที่เริ่มใช้ ไม่ยากเลย หากไม่มีบัตร สามารถแลกเงินผ่านเครื่องแลกเงินภายใน City Bus ได้เลย
  

Wednesday, April 18, 2012

Japan ญี่ปุ่น คนเดียวก็เที่ยวได้

ญี่ปุ่น คนเดียวก็เที่ยวได้

 “Japan ญี่ปุ่น คนเดียวก็เที่ยวได้ by BAS”

เป็นหนึ่งในหนังสือแนะนำการท่องเที่ยวญี่ปุ่น ที่เรามีไว้ครอบครอง  และได้พิสูจน์ด้วยตัวเองว่า Japan ญี่ปุ่น คนเดียวก็เที่ยวได้จริงๆ นอกจากนักท่องเที่ยวต่างชาติแล้ว คนญี่ปุ่นเอง ก็นิยมเที่ยวในญี่ปุ่น มีทั้งเดี่ยว คู่ และครอบครัว เที่ยวคนเดียวส่วนใหญ่ เป็นวัยรุ่น วัยเรียน วันเริ่มทำงาน  (ยังไม่มีคู่) บ้างเดินทางมาเยี่ยมเพื่อน บ้างเยี่ยมครอบครัว  บ้างมาสอบ พักเที่ยวระหว่างทำงานก็มีบ้าง

ญี่ปุ่น มีสถานที่ท่องเที่ยว ที่เป็นมรดกโลกมากมาย แต่ละแห่งมีศูนย์บริการนักท่องเที่ยว หาได้ไม่ยาก บริการข้อมูล เอกสาร แผนที่ แผนการเดินทาง มีทั้งภาษาญี่ปุ่น และภาษาอังกฤษ แม้ชาวญี่ปุ่นจะพูดภาษาอังกฤษไม่คล่อง (หรือคล่องแต่เราฟังไม่เข้าใจ) แต่ก็มีน้ำใจยินดีช่วยเหลือเต็มที่ หลายคนพาเราไปส่ง ถึงจุดหมายปลายทาง น่ารักมากๆ ขอขอบคุณอีกครั้ง


Hotel TOYO

Hotel Toyo เป็นที่พัก สุดประหยัด ในโอซาก้า ที่ถูกแนะนำไว้ในหนังสือ  “Japan ญี่ปุ่น คนเดียวก็เที่ยวได้ by BAS” ได้รับความนิยมอย่างแรง จากนักท่องที่ยวชาวไทย ที่บินลงหรือรอกลับสนามบินคันไซ ด้วยราคาเพียง คืนละ 1,500 yen

แม้ห้องพักจะค่อนข้างแคบ  (ห้ามดิ้นแรง) แต่ก็เหมาะมาก กับนักท่องเที่ยวคนเดียวอย่างเรา และอีกหลายๆ คน ทีต้องการประหยัดเงินเยนไว้เที่ยวญี่ปุ่นหลายๆวัน

Wednesday, April 11, 2012

ติดใจ "Onsen" ติดใจ "การแก้ผ้า" ลงแช่บ่อน้ำร้อน

ช่วงปลาย มี.ค. 2555 ที่ญี่ปุ่น อุณหภูมิ 14 องศาเซลเซียส ถือว่าหนาว สำหรับสาวไทย (โสด) อย่างเรา กิจกรรมที่ช่วยปรับสภาพร่างกายได้เป็นอย่างดี คือการลงแช่บ่อน้ำร้อน ซึ่งช่วยผ่อนคลายความเมื่อยล้า จากการเดินท่องเที่ยวมาตลอดทั้งวัน และยังช่วยปรับระบบการทำงานของร่างกาย ให้ต้านทานกับอากาศหนาวได้ด้วย ตลอด 14 วัน ที่อยู่ญี่ปุ่น แม้จะปวดเท้าบ้าง เมื่อยขาบ้าง แต่ไม่เจ็บไข้ได้ป่วยแต่อย่างใด 

ช่วง แรก พักใจกลางเกียวโต  เข้าไปใช้บริการเซนโตะ หรือสถานที่อาบน้ำรวมหลายครั้ง เพราะมีโอฟุโระ หรืออ่างอาบน้ำ ให้เลือกลงแช่ได้ตามใจชอบ ค่าบริการ 420 yen พอย้ายที่พักไปแถบ Arashiyama เมืองแห่งแม่น้ำ ภูเขา ธรรมชาติ พลาดไม่ได้ที่จะไปแช่ออนเซ็น และก็ไม่ผิดหวัง มีออนเซ็นอยู่ไม่ไกลจากที่พัก ค่าบริการ 1,000 yen มีทั้งอ่างน้ำวน บ่อน้ำแร่ ให้เลือกลงแช่ ประมาณ 10 บ่อ ใครที่กำลังลดพุง มีสายพรานปั่นพุงบริการด้วย

การมีโอกาส ได้อาบน้ำแบบญี่ปุ่น ทำให้เข้าใจ การดำเนินชีวิตของชาวญี่ปุ่นมากขึ้น เข้าใจแล้วว่า ทำไมคนญี่ปุ่น ถึงแก้ผ้าอาบน้ำร่วมกัน โดยไม่อาย เป็นเรื่องธรรมดา ธรรมชาติ เป็นวิถีชีวิต เป็นธรรมมะนั่นเอง  

ออนเซ็นแนะนำ 
http://www.ndg.jp/tenzan/
http://www.yokosojapan.org/onsen/index.html

Monday, April 9, 2012

เครื่องสำอางค์ “CANMAKE” Tokyo ขอบอกว่า Can Make สมชื่อจริงๆ

ช่วง 14 วัน ที่อยู่ญี่ปุ่น เครื่องสำอางค์หลายชิ้นที่นำไปจากเมืองไทย สามัคคีจับตัวกันจนแข็ง เหมือนเพิ่งออกมาจากตู้เย็น โดยเฉพาะ น้ำมันมะพร้าวบริสุทธิ์ 100% ที่พกไปไว้สำหรับทาผมผิว ไม่ได้ใช้เลย ทำให้ต้องหาซื้อโลชันทาผิว และเครื่องสำอางค์อีกหลายอย่างมาใช้ ซึ่งก็ต้องประหยัดตังค์ด้วย เพราะต้องอยู่ญี่ปุ่นอีกหลายวัน ไม่ได้พกมาม่ามาซะด้วย

เครื่องสำอางค์ญี่ปุ่น CanMake
 
ร้านสะดวกซื้อ ร้านขายยา ร้านขายเครื่องสำอางค์ในญี่ปุ่น หาไม่ยากเลย โดยเฉพาะที่เกียวโต เดินเลือกไปเลือกมา สะดุดตากับป้าย “CANMAKE” Tokyo เข้าไปดูซะหน่อย โอ..เจอแล้ว ราคา OK ถือว่าไม่แพงนัก เมื่อเทียบกับ Made in Japan แบรนด์อื่นๆ เฉดสีของแป้งพัฟ เข้ากันได้กับผิวสีน้ำผึ้งเข้มอย่างเรา บลัชออน อายแชโดว์  สีสรรสดใส โดนใจ ตกลงปลงใจ พากลับเมืองไทยซะเลย

บ้านเราอากาศร้อน (มาก) อยู่ญี่ป่นผิวแห้ง กลับมาไทยผิวหน้าเราก็กลับมามันเหมือนเดิม เคยใช้แป้งพัฟบางแบรนด์ พอหน้ามันระหว่างวัน แป้งแยกตัวลอยออกจากหน้า แต่ “CANMAKE” ยังติดทนเหมือนเดิม เทียบกับราคาแล้วคุ้มมาก



"CANMAKE" เหมาะมากกับสาวๆ ที่กำลังมองหาเครื่องสำอางค์ญี่ปุ่นมาใช้เอง หรือหนุ่มๆ ที่กำลังหาซื้อขอฝากเพื่อนสาวๆ เราเคยแอบได้ยินหนุ่มๆเมาส์กันว่า ไม่รู้จะซื้ออะไรมาฝาก ญี่ปุ่นมีแต่เครื่องสำอางค์แพงๆ “CANMAKE” เป็นทางเลือกที่ขอแนะนำค่ะ


เครื่องสำอางค์ญี่ปุ่น CanMake




ตู้ไปรษณีย์ที่ญี่ปุ่น..น่ารักอ่ะ

ญี่ปุ่น..เป็นประเทศที่มีสินค้า ของใช้ และหลายๆ อย่างที่ดูน่ารัก จุ๊บุ จู๊บุ แม้กระทั่ง ตู้ไปรษณีย์ ที่เห็นในภาพเป็นตู้ไปรษณีย์รูปไห พบที่หน้าสถานี JR Uji ขณะเดินทางไปวัด Byodo-in  เห็นแล้ว โดนใจอย่างแรง อยากรีบส่ง Postcard กลับมาให้เพื่อนๆ ที่เมืองไทย เลยทีเดียว



Post card สวยๆ จากญี่ปุ่น ราคาเริ่มต้นที่ 100 yen ค่าส่ง Airmail กลับไทย 70 yen เป็นสื่อส่งความคิดถึง ที่น่าจะสร้างความประทับใจให้กับผู้รับได้เป็นอย่างดี เพราะปัจจุบันนี้ เราคงไม่ค่อยได้ส่งจดหมาย หรือ Post card ผ่านทางไปรษณีย์กันแล้ว เปลี่ยนมาส่ง email, e-card หรือโพสภาพขึ้น Facebook  ไม่รู้ว่าเมืองไทย มีตู้ไปรษณีย์น่ารักๆอย่างนี้หรือเปล่า



ถ้าสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ มีตู้ไปรษณีย์ เป็นพรีเซ็นเตอร์ เช่น ขอนแก่น เป็นรูปแคน, ลำปาง เป็นรูปม้า หรือราชบุรี เป็นรูปโอ่งมังกร น่าจะส่งเสริมให้คนไทย รวมถึงนักท่องเที่ยวหันกลับมาเขียนจดหมาย ส่ง Post card แทนความรู้สึกดีดีให้กันมากขึ้น






Friday, April 6, 2012

เกียวโต..ทะลุ ปรุโปร่ง..จริงๆ

ปฏิบัติการ Back to Japan 18-31 มีนาคม ที่ผ่านมา เป็นการเดินทางสู่ญี่ปุ่นครั้งที่ 2 ระยะเวลาเพียง 14 วัน ใช้ชีวิตอยู่ในเกียวโต 10 วันเต็มๆ แบบคนญี่ปุ่น ทั้งเดิน, ปั่นจักรยาน, รถบัส, รถไฟ JR, Randen, Keihan ใช้แผนที่เกียวโต อย่างคุ้มค่า กางแล้ว..กางอีก จนขาด..ทะลุ..ปรุโปร่ง..@-@

เกียวโต..นอกจากจะเป็นเมืองแห่งมรดกโลกแล้ว ยังเป็นเมืองที่อบอุ่นใจ สถานที่ท่องเที่ยวและที่พักส่วนใหญ่ มักพบพี่น้องชาวไทย ภาษาไทย ชาวญี่ปุ่นและต่างชาติที่เคยไปเที่ยวประเทศไทย แม้คนที่ยังไม่เคยไปเมืองไทย ก็แสดงอาการอยากมาเที่ยวเมืองไทยอย่างออกหน้าออกตา บางคนก็ถามด้วยความห่วงใย ถึงสถานการณ์น้ำท่วม จากภาพข่าวปีที่ผ่านมา   

แม้จะเป็นเพียงช่วงเวลาสั้นๆ ที่ได้มีโอกาสเดินทางไปญี่ปุ่น เพียงลำพัง แต่ก็ได้เก็บเกี่ยวประสบการณ์ การดำเนินชีวิตที่แตกต่าง มุมมอง ความคิด และอีกมากมาย เป็น 14 วันแห่งการเรียนรู้ที่คุ้มค่ามากๆ เพราะเราเชื่อว่า การเรียนรู้นอกห้องเรียน ต้องกล้าที่จะก้าว..ออกไปสัมผัสด้วยตัวเอง


ขอขอบคุณหนังสือทุกเล่ม ผู้เขียนทุกท่าน ที่ได้รวบรวมข้อมูลความรู้จากการเดินทางไปญี่ปุ่น มาบอกเล่า บอกต่อ เป็นกำลังใจและแรงผลักดันให้อยากกลับไปญี่ปุ่นอีก